31 พ.ค. 2565

โครงการพัฒนาต้นแบบอุตสาหกรรมการผลิตรถโดยสารไฟฟ้า (City transit E-buses)
ภายใต้โครงการพัฒนารถโดยสารไฟฟ้าที่พัฒนาจากรถโดยสารประจำทางใช้แล้ว ขสมก.

ผลงานของเรา :  "บริษัท มิสเตอร์เทค เทคโนโลยี จำกัด ได้มีส่วนร่วมในโครงการฯ โดยการติดตั้งระบบ ป้ายไฟ LED และร่วมพัฒนาระบบอุปกรณ์ส่วนเสริมภายในรถ ให้กับรถ EV ต้นแบบ"

       เมื่อวันที่ 31 พ.ค.2565 ที่สำนักงานใหญ่ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ดร.พัชรินรุจา จันทโรนานนท์ ที่ปรึกษา รมว.อุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นประธานพิธีเปิดตัวและส่งมอบผลงานโครงการพัฒนาต้นแบบอุตสาหกรรมการผลิตรถโดยสารไฟฟ้า ภายใต้โครงการพัฒนารถโดยสารไฟฟ้าที่พัฒนาจากรถโดยสารประจำทางใช้แล้ว ขสมก. (City transit E-buses)
โดยภาคีเครือข่ายพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตรถโดยสารไฟฟ้าไทย ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เปิดเผยว่า
        ต้นแบบรถโดยสารไฟฟ้าระดับอุตสาหกรรม พัฒนาจากความร่วมมือของภาคีเครือข่ายฯระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา และสถาบันวิจัย อาทิ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) สํานักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม สถาบันยานยนต์ กรมการขนส่งทางบก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) และบริษัทเอกชน ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ เป็นต้น เนื่องจากยานยนต์ไฟฟ้าได้รับความนิยมมากขึ้น
จากประโยชน์ในการลดต้นทุนด้านพลังงาน ที่สําคัญคือลดมลพิษทางสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในกลุ่มรถโดยสารสาธารณะถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าลงทุนและน่าสนใจอย่างต่อเนื่อง สวทช. ได้รับสนับสนุนงบประมาณจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง57 ล้านบาทประกอบด้วย
        กฟผ. กฟภ. กฟน. สนับสนุนงบหน่วยงานละ 11 ล้านบาท รวมเป็น 33 ล้านบาท
        สวทช. สนับสนุน 10 ล้านบาท เพื่อสร้างสถานีชาร์จไฟฟ้า และดำเนินการวิจัย รวมทั้งจ้างบริษัทเอกชน 4 ราย่ผลิตรถโดยสารไฟฟ้า 4 รุ่น คันละ 3.5 ล้านบาท รวมเป็น 14 ล้านบาท
        ขณะที่ ขสมก. สนับสนุนรถโดยสารปลดระวางอายุใช้งานกว่า 20 ปี โจทย์การปรับปรุงและพัฒนาเป็นรถโดยสารไฟฟ้าให้สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย ลดต้นทุนการนําเข้าหรือผลิตรถโดยสารไฟฟ้าใหม่ ด้วยมูลค่าสัดส่วนการผลิตชิ้นส่วนจากในประเทศมากกว่า 40% และมีต้นทุนต่ำกว่าการผลิตและนําเข้ารถโดยสารไฟฟ้าใหม่มากกว่า 30% หรือประมาณ 7 ล้านบาทต่อคัน เทียบกับนำเข้ารถโดยสารไฟฟ้าจากต่างประเทศต้นทุนคันละ 10-12 ล้านบาท โดย 4 รุ่นผลิตจากบริษัทดังนี้

        1. บริษัท โชคนําชัย-ไฮเทคเพลสซิ่ง จํากัด พัฒนารถโดยสารไฟฟ้า (CNC EV BUS) สัดส่วนการใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศ 40% มุ่งเน้นการพัฒนาตัวถังจากวัสดุน้ำหนักเบา ด้วยตัวถังอลูมิเนียม ลดน้ำหนักตัวถังเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่ ส่งมอบให้กฟน.
       2. บริษัท พานทอง กลการ จํากัด พัฒนารถโดยสารไฟฟ้า (PTM EV BUS) สัดส่วนการใช้ ชิ้นส่วนภายในประเทศ 60% ร่วมมือกับบริษัทผู้ผลิตและจําหน่ายชุดแบตเตอรี่ลิเทียมไออนภายในประเทศ ส่งมอบให้กฟผ.
       3.บริษัท รถไฟฟ้า (ประเทศไทย) จํากัด (มหาชน) พัฒนารถโดยสารไฟฟ้า (EVT EV BUS) สัดส่วนการใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศ 40% มีจุดเด่นที่ใช้ชิ้นส่วนสําคัญจากผู้ผลิตชั้นนําจากต่างประเทศโดยตรง ทําให้มีความเชื่อมั่นในการใช้งานและรับประกันส่งมอบให้กฟภ.
       4.บริษัท สบายมอเตอร์ (ไทยแลนด์) จํากัด พัฒนา รถโดยสารไฟฟ้า (SMT EV BUS) มีจุดเด่นในความเชี่ยวชาญด้านวิศกรรมการออกแบบระบบ ขับเคลื่อน จากประสบการณ์พัฒนารถโดยสารไฟฟ้าและทดสอบใช้งานบนสภาวะการขับขี่จริง บนระยะทางกว่า 25,000 กิโลเมตร ส่งมอบให้ขสมก.
ทั้ง4 คันจะนําไปใช้งานจริงตั้งแต่วันนี้ เพื่อประเมินผลใช้งานขยายผลต่อยอดโครงการต่อไป

       ด้านนายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กล่าวว่า จะนำรถไปจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) จากนั้นจะนำมาวิ่งให้บริการในเส้นทางเดินรถของ ขสมก. ซึ่งอยู่ระหว่างจัดทำแผนให้คลอบคุลมทั้งเส้นทางในเมืองและนอกเมือง ตามโครงการวิจัยจะใช้งานต่อได้ 5-10 ปี

       แหล่งข้อมูลอ้างอิงเนื้อหาข่าวจาก  :  https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts